การแข่งขันฟุตบอล โตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก 2020 นัดที่ 2 โดยเป็นการพบกันระหว่าง “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ เอฟซี เปิดสนาม แพท สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของ “เขี้ยวสมุทร” สมุทรปราการ ซิตี้
โดยก่อน “การท่าเรือ เอฟซี” เป็นจ่าฝูงอยู่หลังในนัดแรกสามารถเอาชนะทางด้าน “นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี” มาได้ถึง 4-1 เลยทำให้เก็บสามคะแนนแรกได้ และมีลูกได้เสียที่ดีกว่าเลยขึ้นไปอยู่บนจ่าฝูงของตาราง ส่วนทางด้านทีมผู้มาเยือนอย่าง “สมุทรปราการ ซิตี้”
ในนัดแรกสามารถยันเสมอทีมเเชมป์เก่าอย่าง “สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด” ในบ้านไปด้วยสกอร์ 1-1 ทำให้
เริ่มเกมในครึ่งแรกเป็นทางด้านเจ้าบ้านที่โหมบุกเพื่อที่จะเอาประตูขึ้นนำให้ได้จนมาในนาทีที่ 28 จากจังหวะ “เอเลียส ดอเลาะ” กระดกบอลลอยโด่งเข้ามาในกรอบเขตโทษ เป็นทางด้าน “เซร์คิโอ ซัวเรซ” พยายามจะดูดบอลลง แต่บอลดันกระดอนไปเข้าทางของ “โก ซุลกิ” มิดฟิลด์จอมเก่าชาวเกาหลีใต้ ของ “การท่าเรือ เอฟซี” ฮาล์ฟวอลเล่ด้วยขวาเข้าไปได้แล้ว
แต่ถูกผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1 อย่าง “อภิชิต โนพวน” ยกธงว่าเป็นการล้ำหน้าไปก่อน แต่ทางด้านผู้ตัดสินในสนามอย่าง “ศรายุทธ จักรเงิน” ได้รับสัญญาณจากห้อง VAR ก่อนจะใช้เวลาไม่นาน และให้เป็นประตูของ “การท่าเรือ” ออกนำไปก่อน 1-0 ในนาทีที่ 28
และก่อนจะหมดเวลาในครึ่งแรกเข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ในนาทีที่ 43 ทีมเยือนอย่าง “เขี้ยวสมุทร” ได้ทำการประท้วงลูกตีเสมอจากจังหวะซ้ำของ “ชญาวัต ศรีนาวงษ์” ที่ส่งบอลข้ามเส้นประตูการท่าเรือไปแล้ว แต่จังหวะแรกผู้ตัดสิน และไลน์แมน ไม่ได้ให้ประตู
ก่อนที่ “ศรายุทธ จักรเงิน” ผู้ตัดสินในสนามจะขอใช้ VAR เป็นหนที่ 2 ของเกมนี้ และสรุปว่าเป็นประตูของที่เยือนอย่าง “สมุทรปราการ” เนื่องจากลูกบอลได้ลอยข้ามเส้นไปเต็มใบแล้ว ก่อนจะจบเกมไปด้วยสกอร์ “การท่าเรือ เอฟซี” เสมอ “สมุทรปราการ ซิตี้” อยู่ 1-1
เริ่มการแข่งขันในครึ่งเวลาหลีงได้เพียง 3 นาที เจ้าบ้านก็ได้ประตูขึ้นนำเป็น 2-1 จากจังหวะ “ปกรณ์ เปรมภักดิ์” เปิดลูกฟรีคิกจากบริเวณกลางสนามแบบกึ่งยิง กึ่งผ่านด้วยเท้าขวา ไปที่เสาสอง ก่อนจะเป็น “เซร์คิโอ ซัวเรซ” ขึ้นโหม่งเฉือนๆเข้าไป
ต่อมาในนาทีที่ 66 เจ้าบ้านได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งจากจังหวะได้ลูกจุดโทษหลัง “บดินทร์ ผาลา” ขึ้นโขกในกรอบเขตโทษ แต่บอลดันไปติดแขนของแนวรับ “สมุทรปราการ” อย่าง “ศุภนันท์ บุรีรัตน์” ซึ่งในจังหวะแรกผู้ตัดสินอย่าง “ศรายุทธ จักรเงิน” ไม่ได้ให้เป็นจุดโทษ แต่ในเวลาต่อมาได้ของใช้เทคโนโลยี VAR เป็นหนที่ 4 ในเกมนัดนี้ พร้อมกับเดินมาดูจอด้วยตนเองเป็นครั้งแรก
ก่อนจะทำสัญญาณมือชี้เป็นจุดโทษของเจ้าบ้าน และแจกใบเหลืองให้กับ “ศุภนันท์” และเป็นทางด้าน “เฮแบร์ตี้ แฟร์นันเดส” รับหน้าที่สังหารเข้าไปแบบไม่พลาด ทำให้ “การท่าเรือ” นำห่าง “สมุทรปราการ” เป็น 3-1
และก่อนจบเกมเพียง 2 นาที เป็นทางด้าน “อดิศักดิ์ ไกรศร” ตัวสำรองที่พึ่งเปลี่ยนตัวลงมา ยิงประตูที่ 4 ในเกมนี้ไปได้ จากจังหวะลูกคอนเนอร์ทาฃฝั่งซ้าย
ก่อนบอลจะลอยข้ามไปเสาสองแล้วเป็นทางด้าน “โก ซุง กี” ตวัดบอลแบบกึ่งยิงกึ่งผ่านเข้ามาตรงหน้ากรอบเขตโทษ และเป็น “อดิศักดิ์” ชาร์ทเข้าไปจ่อไม่เหลือ “สิงห์ท่าเรือ” ออกนำเป็น 4-1
ทำให้จบเกมเป็นทางด้าน “การท่าเรือ เอฟซี” เปิดบ้านถล่ม “สมุทรปราการ ซิตี้” ไปด้วยสกอร์ 4-1 ส่งผลให้ “การท่าเรือ” ยังรั้งในอันดับที่ 1 ต่อไปในตาราง และมี 6 แต้มจาก 2 นัด
ส่วนทางด้าน “สมุทรปราการ ซิตี้” มี 2 คะแนน จาก 2 นัด หล่นลงไปอยู่อันดับที่ 13 ของตาราง
ติดตามความเคลื่อนไหวกีฬาไทย และ กีฬาต่างประเทศ ข่าวกีฬาวันนี้ รวบรวม ไฮไลท์ฟุตบอลเมื่อคืน , โปรแกรมฟุตบอล , ฟุตบอลวันนี้ ,ฟุตบอลคืนนี้
#กีฬาทั่วไป , #สกู๊ปทั่วไป , #กีฬามวย , #กีฬาเบสบอล , #ผลการแข่งขันสนุ๊กเกอร์ , #วิเคราะห์สนุ๊กเกอร์ , #baseball-scores.net
