Eliud Kipchoge อีลิทชาวเคนย่าวัย 34ปีที่พวกเรารู้จักกันดีในฐานะคนที่วิ่งมาราธอนเร็วที่สุดในโลกอย่างไม่เป็นทางการ จากโครงการ Breaking2ปลายปีที่แล้วเขาไปปาฐกถาที่สถาบัน Oxford Union Society เกี่ยวกับปรัชญาการฝึกซ้อม บทความนี้คัดสรรมาเฉพาะประโยคเนื้อๆ มาดูกันครับว่า หลังจาก 17 ปีของการเป็นนักวิ่งเต็มตัว คิปโชเก้ตกผลึกความคิดในด้านด่างๆ ออกมาเช่นไร
>> ว่าด้วยวินัยต่อตนเอง <<
“มีเพียงคนที่มีวินัยเท่านั้นที่ได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระ ถ้าคุณขาดวินัย คุณจะเป็นทาสอารมณ์เป็นทาสความทะยานอยาก”
>> ว่าด้วยการเตรียมพร้อม <<
“ชัยชนะไม่ใช่สิ่งสำคัญ แม้แต่ความสำเร็จก็ไม่สำคัญ สิ่งสำคัญจริงๆ คือการวางแผนและเตรียมตัวเพราะถ้าคุณวางแผนและเตรียมตัวอย่างดีcนั่นคือการสร้างเส้นทางให้ความสำเร็จและชัยชนะเดินมาหาคุณเอง”
>> ว่าด้วยการคิดบวก <<
“จงรื่นรมย์ในสิ่งที่กำลังทำ เพราะสิ่งนี้แหละจะทำให้ความสมบูรณ์แบบเกิดขึ้นในงานของคุณ – อริสโตเติ้ลเคยบอกไว้แบบนี้”
>> ว่าด้วยความสม่ำเสมอ <<
“ผมมั่นใจมากที่จะพูดว่า ถ้าคุณอยากเติบโตในสายอาชีพใดๆ ก็ตาม หัวใจคือความสม่ำเสมอผมเป็นคนเคร่งครัดเรื่องเป้าหมายอาชีพและการฝึกซ้อม ถ้ามีครั้งไหนที่พลาดการซ้อมมันก็เหมือนไม่ได้เข้าประชุมงานกลุ่ม แล้วปล่อยให้เพื่อนร่วมกลุ่มอีก 6 คนทำงานถ้ามีครั้งไหนที่พลาดการซ้อม วันนั้นผมแทบจะหลับไม่ลงเลย”

>> ว่าด้วยความเข้มแข็งของจิตใจ <<
“ความเข้มแข็งของใจมีบทบาทสำคัญระหว่างการแข่งขัน ถ้าคุณควบคุมใจไม่ได้ ใจจะควบคุมคุณนี่แหละคือวิธีคิดของผมเกี่ยวกับกีฬาชนิดนี้”
>> ว่าด้วยกลยุทธ์การแข่งขัน <<
“ในการวิ่งมาราธอน ครึ่งแรกของมันก็แค่ “การวิ่ง” ธรรมดาๆ ที่กม. 15 หรือ 20 ใครๆ ก็ไปถึงได้“มาราธอน” ที่แท้จริงเริ่มที่ กม. 30 ต่างหาก เพราะนั่นคือระยะทางที่คุณจะเริ่มเจ็บปวดไปทั่วร่างกล้ามเนื้อจะระบมอย่างแท้จริง
มีเฉพาะนักกีฬาที่เตรียมตัวและวางแผนมาดีที่สุดเท่านั้นที่จะยังวิ่งได้ดีอยู่หลังจากนั้น ก่อน กม. 30 ผมจะวิ่งเกาะกลุ่ม แต่หลังจาก กม. 30 ผมจะวิ่งด้วยเพสของตัวเองถ้าใครดีพอจะเกาะผม เราก็ไปด้วยกัน”
>> ว่าด้วยการปรับตัว <<
“จงเรียนรู้ที่จะทำตัวสบายๆ กับสิ่งที่ทำให้คุณไม่สะดวกสบาย จงยอมรับการเปลี่ยนแปลง”
>> ว่าด้วยความเชื่อต่อตนเอง <<
“ผมเชื่อในสิ่งที่ทำ การจะวิ่งมาราธอนงานใหญ่และเป็นผู้ชนะต้องใช้เวลา 5 เดือน เมื่อผมอยู่ที่เส้นสตาร์ทใจของผมจะเริ่มคิดทบทวนสิ่งต่างๆ ที่ทำมาตลอด 5 เดือน ผมเชื่อในการฝึกซ้อมของตัวเองและเชื่อว่าผมคือหนึ่งในบรรดาคนที่เตรียมตัวมาดีที่สุด ที่กำลังยืนอยู่หลังเส้นสตาร์ท ณ เวลานี้”
>> ว่าด้วยการจัดการความเจ็บปวดระหว่างแข่งขัน (และว่าด้วยแม้แต่คนที่วิ่งเร็วที่สุดในโลกยังระบมหลังวันแข่งขัน) <<
“เมื่อรู้สึกเจ็บปวดมากๆ ผมจะพยายามเบนจิตใจออกไปที่เรื่องอื่นเพื่อให้ลืมความเจ็บปวดแล้วให้มาสนใจที่ระยะทางแทน ผมไม่ต้องการให้ความรู้สึกเจ็บปวดมาครอบงำจิตใจเพราะนั่นจะทำให้สมาธิต่อการวิ่งสูญเสียไป หลังจากเข้าเส้นชัย ความเจ็บปวดนั้นจะหายไปแต่มันจะกลับมาอีกครั้งในวันถัดมา การวิ่งมาราธอนคือกีฬาที่โหดในวันถัดมาคุณจะแทบขึ้นลงบันไดไม่ได้เลย”
#วิ่ง #ออกกำลังกาย #ดูแลสุขภาพ #หุ่นดี #เกมยิงปลาออน์ไลน์